วิธีย้าย eSIM จาก Android มา iOS ทำง่ายๆ แต่กดยังไงต้องดูกัน

CasinoGames

Apple ได้ปล่อยอัปเดตคนใช้งาน Android ที่กำลังย้ายค่าย ที่หลายคนรอคอยมานาน ในที่สุด iOS 26 ก็ได้ปรับปรุงกระบวนการย้าย eSIM ข้ามแพลตฟอร์มให้ง่ายดายทัดเทียมกับการย้ายระหว่าง iPhone ด้วยกันแล้ว โดยตัดขั้นตอนที่ยุ่งยากที่สุดอย่างการติดต่อผู้ให้บริการ เพื่อขอ QR Code ทิ้งไป แม้ว่าการย้าย eSIM ระหว่าง iPhone （iPhone-to-iPhone） จะทำได้ง่ายมาตั้งแต่ยุค iOS 18 แต่การย้ายจาก Android มา iPhone （Android-to-iPhone） กลับมีขั้นตอนที่ซับซ้อนโดยไม่จำเป็นมาโดยตลอด การมาถึงของ iOS 26 ในครั้งนี้จึงถือเป็นการทลายกำแพง Ecosystem ในส่วนนี้อย่างแท้จริง
วิธีย้าย eSIM จาก Android ไปที่ iOS 26
เช็กลิสต์สเปกและสิ่งที่ต้องเตรียม

ก่อนเริ่มต้นกระบวนการย้าย eSIM ข้ามแพลตฟอร์มนี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้ครบถ้วน

• ผู้ให้บริการ （Carrier）: ต้องเป็นเครือข่ายที่รองรับฟีเจอร์นี้ （ในสหรัฐฯ เช่น AT&T, T-Mobile หรือ Verizon） สำหรับในไทย ต้องรอการยืนยันจาก AIS, dtac, True อีกครั้ง
  
• ฝั่ง iPhone: ต้องเป็น iPhone 11 หรือรุ่นใหม่กว่า และรัน iOS 26 เป็นอย่างน้อย
  
• ฝั่ง Android: สมาร์ทโฟนต้องรองรับฟีเจอร์นี้ และรัน Android 16 หรือเก่ากว่านั้น （ควรตรวจสอบกับผู้ผลิตแบรนด์นั้นๆ เพื่อยืนยันความเข้ากันได้）
  
• การเชื่อมต่อ: อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi และเปิด Bluetooth ไว้
  

  
How-To: ขั้นตอนการย้าย eSIM จาก Android สู่ iPhone （iOS 26）

เมื่อตั้งค่า iPhone เครื่องใหม่เรียบร้อยแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้

• วางโทรศัพท์ทั้งสองเครื่องไว้ข้างกัน เพื่อให้มองเห็นหน้าจอพร้อมกัน
  
• บน iPhone: ไปที่ Settings （การตั้งค่า） และแตะ Set Up Cellular （ตั้งค่าเซลลูลาร์）
  
• （หากคุณมีซิมอื่นอยู่แล้ว ให้ไปที่ Settings Cellular/Mobile Service Add eSIM）
  
• บน iPhone: เลือกเมนูใหม่ Transfer from Android （โอนจาก Android） แล้วแตะ Continue （ดำเนินการต่อ）
  
• หน้าจอ iPhone จะแสดง QR Code ขึ้นมา
  
• บน Android: เปิดแอปกล้อง （Camera） สแกน QR Code ที่ปรากฏบนหน้าจอ iPhone
  
• บน Android: เลือกหมายเลขโทรศัพท์ （eSIM） ที่คุณต้องการโอนย้าย และแตะ Transfer （โอนย้าย）
  
• （หากระบบถาม） แตะ Yes （ใช่） เพื่อยืนยันการใช้ซิมที่โอนมานี้เป็น eSIM หลัก
  
• เมื่อเสร็จสิ้น ให้แตะ Done （เสร็จสิ้น） บน iPhone และแตะ OK
  
• ทดสอบโทรออกเพื่อตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเซลลูลาร์ทำงานเรียบร้อย
  

หมายเหตุ: eSIM บนเครื่อง Android เดิมของคุณจะถูกปิดการใช้งาน （Deactivated） โดยอัตโนมัติเมื่อกระบวนการโอนย้ายเสร็จสมบูรณ์

  
วิธีย้ายสำรอง หากสแกน QR Code ไม่ผ่าน

หากการสแกน QR Code ด้วยกล้อง Android ไม่ทำงาน ใน iOS 26 ยังมีกลไกการจับคู่สำรอง （Alternative Pairing Method） ซ่อนอยู่

• บน iPhone: แตะที่ Other Options （ตัวเลือกอื่น） ซึ่งอยู่ใต้ QR Code
  
• บน Android: （ขั้นตอนนี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์） ให้ไปที่ Google services All services （บริการของ Google > บริการทั้งหมด）
  
• แตะที่ Pair with iPhone or iPad （จับคู่กับ iPhone หรือ iPad）
  
• เลือก Transfer eSIM （โอน eSIM）
  
• นำ Session ID และ Pairing Code （รหัสจับคู่） ที่แสดงบนหน้าจอ iPhone มากรอกบนเครื่อง Android แล้วแตะ Next （ถัดไป）
  
• เลือกหมายเลขที่ต้องการโอนย้ายและกดยืนยัน
  
• แตะ Done （เสร็จสิ้น） บน iPhone เมื่อกระบวนการทั้งหมดจบลง
  

หากทำตามทั้งสองวิธีแล้วยังไม่สำเร็จ นั่นหมายความว่าคุณอาจต้องกลับไปใช้วิธีดั้งเดิม คือการติดต่อศูนย์บริการผู้ให้บริการเครือข่ายของคุณโดยตรงเพื่อขอความช่วยเหลือในการโอนย้ายต่อไป ซึ่งจากที่ผู้เขียนทดลองในประเทศไทยยังต้องไปศูนย์บริการหน่อย