找回密码
 立即注册
搜索
查看: 875|回复: 0

แบรนด์ Supreme โลโก้สีแดง แพงแน่นอน ทำไมของแต่ละชิ้น ราคาสูงลิ่ว

[复制链接]

8万

主题

-651

回帖

26万

积分

论坛元老

积分
261546
发表于 2025-10-28 17:48:53 | 显示全部楼层 |阅读模式
รู้จัก Supreme แบรนด์สตรีทตัวพ่อ ผู้นิยามคำว่า “Hype“ จากร้านสเก็ตสู่ Luxury Streetwear

หากพูดถึงคำว่า “Hype“ ในวงการแฟชั่น ชื่อแรกที่ทุกคนต้องนึกถึงคือ Supreme แบรนด์สตรีทแวร์สัญชาติอเมริกัน กับโลโก้สี่เหลี่ยมสีแดงตัวอักษรสีขาว (Box Logo) ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก Supreme ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์เสื้อผ้า แต่คือปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่เปลี่ยนกฎเกณฑ์ของวงการค้าปลีก และยกระดับตัวเองจากร้านสเก็ตบอร์ด สู่สถานะ “Luxury Streetwear“ อย่างเต็มภาคภูมิ เส้นทางของ Supreme เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 บนถนน Lafayette ในย่านโซโห มหานครนิวยอร์ก โดยผู้ก่อตั้งชาวอังกฤษ เจมส์ เจบเบีย (James Jebbia)

  
จุดเริ่มต้น: ร้านสเก็ตที่เป็นมากกว่าร้านค้า

เจมส์ เจบเบีย ไม่ได้เริ่มต้น Supreme ในฐานะดีไซเนอร์ แต่ในฐานะผู้สร้าง “พื้นที่“ เขาสังเกตเห็นว่าร้านสเก็ตในยุคนั้นมักจะคับแคบและไม่ต้อนรับลูกค้าทั่วไป เขาจึงเปิดร้าน Supreme ด้วยดีไซน์ที่โปร่ง โล่ง สบาย เปิดเพลงเสียงดัง และอนุญาตให้สเก็ตเตอร์เข้ามาในร้านได้ ทำให้ที่นี่กลายเป็น “คลับเฮาส์“ หรือจุดนัดพบของเหล่าสเก็ตเตอร์ ศิลปิน และผู้คนในวัฒนธรรมย่อยของนิวยอร์ก ในยุคแรกเริ่ม Supreme ขายเสื้อยืดและฮู้ดดี้ที่มีโลโก้ Box Logo อันโด่งดัง ซึ่งเจบเบียได้รับแรงบันดาลใจ (หรือบ้างก็ว่า “ลอกเลียน“) มาจากงานศิลปะแนวโฆษณาชวนเชื่อของศิลปิน บาร์บารา ครูเกอร์ (Barbara Kruger)

  
กลยุทธ์สร้าง “Hype“ ที่โลกต้องจำ

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Supreme แตกต่างและมีมูลค่ามหาศาล คือโมเดลธุรกิจที่ท้าทายทุกตำราการตลาด Supreme ไม่ได้ผลิตสินค้าจำนวนมากเพื่อตอบสนองความต้องการ แต่ผลิตในจำนวนจำกัดอย่างยิ่งยวด

Supreme ใช้วิธีการ “Drop“ สินค้าใหม่ทุกวันพฤหัสบดี (Thursday Drops) สินค้าที่ออกมาในแต่ละสัปดาห์จะไม่ถูกผลิตซ้ำอีก กลยุทธ์ความขาดแคลน (Scarcity) นี้เอง ที่สร้างปรากฏการณ์ “Hype“ ผู้คนยอมต่อคิวนอนรอข้ามคืน (Camp-out) เพื่อให้ได้สิทธิ์ซื้อสินค้า และก่อให้เกิดตลาดรีเซล (Resale Market) ที่สินค้ามีราคาสูงกว่าป้ายหลายเท่าตัว
การคอลแลบส์ (Collabs) สู่สถานะ Luxury

  

Supreme คือเจ้าพ่อแห่งการคอลแลบส์ ไม่ว่าจะเป็นกับแบรนด์สตรีทด้วยกัน (เช่น The North Face, Nike) หรือศิลปินดัง (เช่น Jeff Koons, Damien Hirst) แต่จุดเปลี่ยนสำคัญที่สั่นสะเทือนวงการและยกระดับ Supreme สู่ Luxury Brand เต็มตัว คือการร่วมงานกับ Supreme x Louis Vuitton ในปี 2017 คอลเลกชันนี้ได้หลอมรวมโลโก้ Box Logo เข้ากับ Monogram ของแบรนด์ไฮเอนด์ระดับโลกอย่างแนบเนียน มันคือการประกาศว่าสตรีทแวร์ได้ก้าวข้ามกำแพงและกลายเป็นส่วนหนึ่งของแฟชั่นชั้นสูงแล้ว หลังจากนั้น Supreme ก็ได้ร่วมงานกับแบรนด์หรูอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น Rimowa, Tiffany & Co. และ Burberry
ของสะสมสุด Hype ที่ราคาสูงเสียดฟ้า

ด้วยความหายากและสถานะทางวัฒนธรรม ทำให้ไอเทมของ Supreme กลายเป็นของสะสมที่นักลงทุนตามหา และมีราคาประมูลที่น่าตกใจ

  • Supreme x Louis Vuitton Trunk: หีบเดินทางในตำนานจากการคอลแลบส์ครั้งประวัติศาสตร์ ถือเป็น “Holy Grail“ ของวงการ ราคาในตลาดรีเซลสูงหลายล้านบาท
  • Supreme Pinball Machine: เครื่องเล่นพินบอลที่ผลิตโดย Stern ในปี 2018 ซึ่งใช้งานได้จริง ผลิตในจำนวนจำกัดมาก และกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แสดงสถานะของผู้ครอบครอง
  • Artist Skateboard Decks: สเก็ตบอร์ดที่ทำร่วมกับศิลปินระดับโลก โดยเฉพาะเซ็ตของ Damien Hirst (2009) หรือ Jeff Koons (2006) มีราคาประมูลสูงถึงหลักแสนหรือหลักล้านบาท
  • Original Box Logo T-Shirts: เสื้อยืด BOGO รุ่นแรกๆ หรือรุ่นพิเศษ (เช่น ลาย Hebrew หรือ ลาย Sample) ถือเป็นของวินเทจที่นักสะสมตัวจริงยอมจ่ายในราคาสูงลิ่ว

สรุป

จากร้านสเก็ตเล็กๆ ในนิวยอร์ก Supreme ได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นด้วยการใช้ “ความขาดแคลน“ เป็นเครื่องมือทางการตลาด และใช้ “การคอลแลบส์“ เพื่อทลายกำแพงระหว่างวัฒนธรรมย่อยกับโลกแฟชั่นชั้นสูง Supreme ไม่ได้ขายเสื้อผ้า แต่ขาย “สถานะ“ และความเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่เรียกว่า “Hype“
แหล่งอ้างอิง

  • The Business of Fashion
  • Highsnobiety
  • Vogue
  • Complex
  • Sotheby\“s
  • GQ
  • CR Fashion Book
您需要登录后才可以回帖 登录 | 立即注册

本版积分规则

Archiver|手机版|小黑屋|usdt交易

GMT+8, 2025-12-2 22:40 , Processed in 0.147762 second(s), 24 queries .

Powered by usdt cosino! X3.5

© 2001-2025 Bitcoin Casino

快速回复 返回顶部 返回列表