|
|
แม้จะยังไม่เปิดตัว แต่ iPhone 18 ก็เริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการใช้ซัพพลายเชนของเซมิคอนดักเตอร์แล้ว เมื่อมีรายงานว่า Samsung Electronics ได้ขยายกำลังการผลิตเซ็นเซอร์รับภาพ (Image Sensor) เพื่อป้อนให้กับ Apple ส่งผลให้ Doosan Tesna ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญด้านการทดสอบชิป ต้องทุ่มเม็ดเงินลงทุนกว่า 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับจัดหาอุปกรณ์ใหม่
Doosan Tesna บริษัททดสอบเซมิคอนดักเตอร์หลังการผลิต จากเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะใช้เงินลงทุน 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.5 พันล้านบาท) เพื่อซื้อระบบทดสอบจากบริษัทชั้นนำอย่าง Advantest และ Japan Interaction ของญี่ปุ่น รวมถึง Semes ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Samsung เอง โดยการลงทุนครั้งนี้คิดเป็น 21.77% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท และจะทยอยดำเนินการระหว่างปี 2026 จนถึงเดือนมีนาคม 2027
การลงทุนครั้งนี้เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับสายการผลิตเซ็นเซอร์รับภาพแห่งใหม่ของ Samsung ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตชิ้นส่วนสำหรับ iPhone 18 ในปี 2027 การกลับมาของ Samsung ในฐานะซัพพลายเออร์เซ็นเซอร์กล้องให้กับ Apple ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ และอาจสั่นคลอนการครองตลาดของ Sony ที่เป็นผู้ผลิตเซ็นเซอร์ให้กับ iPhone มาอย่างยาวนาน โดยมีรายงานว่า Apple ต้องการกระจายความเสี่ยงด้านซัพพลายเออร์ หลังจากที่ Sony ประสบปัญหาการส่งมอบล่าช้าในช่วงปี 2023-2024
ชี้เป้าเซ็นเซอร์รุ่นใหม่ต้องการการทดสอบขั้นสูง
ประเด็นที่น่าสนใจในเชิงเทคนิคคือ การที่ Doosan Tesna ซึ่งมีรายได้กว่า 90% มาจากแผนก Foundry และ System LSI ของ Samsung ตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางการลงทุนในอุปกรณ์จากเดิมที่ใช้ Teradyne มาเป็น Advantest มากขึ้น เนื่องจากระบบของ Advantest นั้นถูกใช้อย่างแพร่หลายในการทดสอบชิปประสิทธิภาพสูง เช่น GPU, หน่วยความจำ และโปรเซสเซอร์ AI ซึ่งบ่งชี้ว่าเซ็นเซอร์รับภาพรุ่นใหม่ที่ Samsung จะผลิตให้ Apple นั้นมีความซับซ้อนและต้องการกระบวนการตรวจสอบที่ล้ำหน้ากว่าเดิม
การตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่ของ Doosan Tesna ที่คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในห้าของสินทรัพย์ทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าการเตรียมความพร้อมสำหรับ iPhone รุ่นในอนาคตของ Apple ได้เริ่มส่งผลต่อทิศทางการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกแล้ว แม้จะยังเหลือเวลาอีกหลายปีกว่าที่ผลิตภัณฑ์จะเปิดตัวก็ตาม |
|