|
|
น้ำส้มควันไม้ (Wood Vinegar) คืออะไร? สารพัดประโยชน์ต่อการเกษตรและครัวเรือน
น้ำส้มควันไม้ (Wood Vinegar) คือของเหลวสีน้ำตาลใสที่ได้จากกระบวนการผลิตถ่าน โดยเกิดจากการควบแน่นของควันไม้ในที่อับอากาศ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติชนิดนี้มีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายควันไฟ ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีประโยชน์หลากหลาย ทั้งในภาคเกษตรกรรมและครัวเรือน นับเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระบวนการผลิตน้ำส้มควันไม้ (Pyrolysis)
น้ำส้มควันไม้เกิดขึ้นจากกระบวนการที่เรียกว่า “การกลั่นสลายด้วยความร้อน“ หรือ Pyrolysis โดยจะนำไม้ไปเผาในเตาหรือภาชนะที่ควบคุมปริมาณออกซิเจนให้น้อยที่สุด เมื่อไม้ได้รับความร้อนสูงถึงประมาณ 300–400 องศาเซลเซียส สารประกอบในเนื้อไม้จะสลายตัวกลายเป็นไอและควัน ควันเหล่านี้จะถูกทำให้เย็นลงผ่านท่อควบแน่นและกลั่นตัวกลายเป็นของเหลวในที่สุด
ของเหลวที่ได้ในเบื้องต้นจะต้องนำไปพักไว้ในภาชนะปิดนานอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้เกิดการตกตะกอนและแยกชั้น โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้นหลัก ดังนี้:
- น้ำมันดินชนิดเบา (Light Tar/Oil) ลอยอยู่ชั้นบนสุด
- น้ำส้มควันไม้ (Wood Vinegar) อยู่ชั้นกลาง มีลักษณะเป็นของเหลวใสสีน้ำตาล
- น้ำมันดินชนิดหนัก (Heavy Tar/Oil) ตกตะกอนอยู่ชั้นล่างสุด
จากนั้นจึงแยกเฉพาะส่วนของน้ำส้มควันไม้ชั้นกลางมาใช้งาน ซึ่งมีส่วนประกอบของสารมากกว่า 200 ชนิด โดยมีกรดอะซิติก (Acetic Acid) เป็นส่วนประกอบหลัก จึงทำให้มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) อยู่ที่ประมาณ 3
สารพัดประโยชน์จาก “น้ำส้มควันไม้“
น้ำส้มควันไม้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้าน โดยเฉพาะในภาคการเกษตร เพราะเป็นตัวช่วยเสริมที่ทรงประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ประโยชน์หลักๆ มีดังต่อไปนี้
1. ด้านการเกษตร
- ป้องกันและขับไล่แมลงศัตรูพืช: กลิ่นฉุนมีประสิทธิภาพในการขับไล่แมลง เช่น เพลี้ย หนอน มด ปลวก และแมลงวันทอง
- ป้องกันโรคพืช: มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า และโรคใบจุด
- กระตุ้นการเจริญเติบโต: การใช้น้ำส้มควันไม้ในอัตราส่วนเจือจางรดลงดิน จะช่วยเร่งการเจริญเติบโตของราก ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีและแข็งแรงขึ้น
- ปรับปรุงคุณภาพดิน: ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ ทำให้ดินร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์ และสามารถใช้เร่งการย่อยสลายของอินทรียวัตถุเพื่อทำปุ๋ยหมักได้
2. ด้านปศุสัตว์
มีการนำน้ำส้มควันไม้มาใช้เพื่อช่วยลดกลิ่นเหม็นในฟาร์มและโรงเรือนสัตว์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การฉีดพ่นบริเวณคอกสัตว์ยังช่วยป้องกันและขับไล่แมลงรบกวน เช่น เห็บ หมัด และไร ที่เป็นพาหะนำโรคได้อีกด้วย
3. ด้านครัวเรือนและอื่นๆ
สามารถนำมาใช้ดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบริเวณต่างๆ เช่น กลิ่นอับในห้องน้ำ ท่อระบายน้ำ หรือถังขยะ และยังใช้ผสมน้ำเพื่อเช็ดถูพื้นผิวเพื่อไล่มดและแมลงสาบได้ด้วยเช่นกัน
วิธีการใช้งานและข้อควรระวัง
การใช้น้ำส้มควันไม้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและไม่เป็นอันตรายต่อพืช ต้องผสมน้ำให้เจือจางก่อนนำไปใช้เสมอ อัตราส่วนจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ แต่โดยทั่วไปจะใช้เพียงเล็กน้อยดังนี้:
- ขับไล่แมลง (ฉีดพ่นทางใบ): อัตราส่วน 1:200 (น้ำส้มควันไม้ 1 ส่วน ต่อน้ำ 200 ส่วน) ฉีดพ่นทุก 7-15 วัน
- กระตุ้นการเจริญเติบโต (รดลงดิน): อัตราส่วน 1:100 (น้ำส้มควันไม้ 1 ส่วน ต่อน้ำ 100 ส่วน) รดบริเวณโคนต้น ทุก 15-30 วัน
- ดับกลิ่นในคอกสัตว์/ครัวเรือน: อัตราส่วน 1:20 ถึง 1:50 ใช้ฉีดพ่นบริเวณที่ต้องการ
สิ่งที่ต้องระวังคือ น้ำส้มควันไม้มีความเข้มข้นสูงและเป็นกรด การใช้โดยไม่ผสมน้ำอาจทำให้พืชใบไหม้ได้ นอกจากนี้ ไม่ควรฉีดพ่นในช่วงที่พืชออกดอก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการผสมเกสร ควรเก็บไว้ในที่ร่มและปลอดภัยพ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
น้ำส้มควันไม้ถือเป็นภูมิปัญญาจากธรรมชาติที่มีคุณค่า เป็นทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับเกษตรกรที่ต้องการลดการใช้สารเคมี สนับสนุนเกษตรอินทรีย์ และช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กับการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพและปลอดภัย |
|