|
|
ผู้ปกครองควรรู้! 6 ขนมเค้กและเบเกอรี่ ที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อซื้อให้เด็กเล็ก กินมากไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ปัจจุบันหลายครอบครัวนิยมใช้ขนมหวานหรือเบเกอรี่เป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่างสำหรับเด็ก เนื่องจากช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมอาหาร และยังมีรสชาติที่ถูกปากเด็ก ๆ อย่างไรก็ตาม ขนมหวานเหล่านี้แม้จะมีรูปลักษณ์และรสชาติที่ดึงดูดใจ แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กได้
6 ขนมหวานที่ควรจำกัดการซื้อให้เด็ก
ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมากเพียงใด หรือลูกของคุณจะชื่นชอบขนมหวานแค่ไหน เว็บไซต์ Sohu แนะนำให้จำกัดการซื้อขนม 6 ชนิดนี้ให้แก่เด็ก เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนี้
1. เค้กครีมจากเนยเทียม （Margarine/Vegetable Cream Cake）
เค้กครีมมักเป็นที่สะดุดตาที่สุดในร้านเบเกอรี่ ด้วยสีสันสดใส รูปทรงที่สวยงาม และชั้นครีมที่นุ่มฟู ซึ่งดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ครีมที่ใช้ในเค้กเหล่านี้กว่า 90% มักเป็น เนยเทียม หรือที่เรียกว่า ครีมพืช ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ น้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจน
กระบวนการผลิตครีมพืชนี้จะก่อให้เกิด ไขมันทรานส์ ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ควรจำกัดการบริโภค ปัจจุบันร้านเบเกอรี่กว่า 80% ในตลาดเลือกใช้เนยเทียมเพื่อลดต้นทุน แม้บางร้านจะโฆษณาว่าทำจากเนยแท้ แต่ก็มีการใช้เนยเทียมเป็นส่วนผสมแทน เนื่องจากเนยแท้จากสัตว์มีราคาสูงกว่าเนยเทียมถึง 10 เท่า
2. ขนมปังไส้ไส้กรอก （Sausage Bread/Roll）
เด็ก ๆ มักจะชอบไส้กรอกและเลือกรับประทานเป็นอันดับแรก ๆ ในมื้ออาหาร ด้วยเหตุนี้ ขนมปังไส้กรอก จึงถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นหนึ่งในเบเกอรี่ยอดนิยม อย่างไรก็ตาม เพื่อผลกำไรที่สูงขึ้น ร้านเบเกอรี่มักใช้ไส้กรอกราคาถูก ซึ่งบางชนิดแทบไม่มีเนื้อสัตว์ แต่ทำจากเศษแป้งและผงกระดูกที่เหลือจากการผลิต
ช่างทำขนมรายหนึ่งเปิดเผยว่า ไส้กรอกที่ทำจากเนื้อสัตว์แท้มีราคาสูงมาก ขณะที่ไส้กรอกที่ร้านเบเกอรี่ทั่วไปใช้มักมีราคาถูก ดังนั้น หากผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานรับประทานขนมปังไส้กรอก ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการทำเองที่บ้านเพื่อความมั่นใจในคุณภาพ
3. ขนมปังหน้าหมูหยอง （Pork Floss Bread）
ขนมปังหน้าหมูหยองเป็นอีกชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในร้านเบเกอรี่ ด้วยสีเหลืองทองและเนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูของหมูหยองที่โรยอยู่เต็มหน้าขนมปัง แต่ความเป็นจริงที่หลายคนไม่ทราบคือ หมูหยองที่ร้านใช้มักไม่ใช่ หมูหยองแท้ แต่เป็น “ผงหมูหยอง“ ที่ไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบเลย
ร้านเบเกอรี่จำนวนมากใช้แป้งถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบหลักในการทำผงหมูหยอง และเติมสารปรุงแต่งกลิ่นรสต่าง ๆ เพื่อเลียนแบบรสชาติของเนื้อสัตว์ ด้วยรสชาติที่อร่อยและสีสันที่น่าดึงดูด ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปยากที่จะแยกแยะได้ว่าสิ่งที่รับประทานอยู่นั้นเป็นเนื้อสัตว์แท้หรือไม่
4. ทีรามิสุ （Tiramisu）
ทีรามิสุเป็นขนมหวานสัญชาติอิตาลีที่มีชื่อเสียง ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามและมักถูกนำเสนออย่างประณีตในตู้แช่ขนมของร้านเบเกอรี่ อย่างไรก็ตาม ทีรามิสุในปัจจุบันได้ถูกปรับสูตรไปจากแบบดั้งเดิม และกลายเป็น “ระเบิดแคลอรี“ ที่มีน้ำตาลและไขมันสูงมาก
เพื่อลดต้นทุนและยืดอายุการเก็บรักษา ร้านเบเกอรี่ส่วนใหญ่จึงใช้ ครีมพืช แทนมาสคาร์โปนชีส และใช้ ผงโกโก้ หรือหัวเชื้อช็อกโกแลตแทนช็อกโกแลตแท้ ซึ่งผงโกโก้ที่ใช้นั้นไม่ได้ทำจากเมล็ดโกโก้แท้ ๆ แต่มีการเพิ่มน้ำตาลและน้ำมันจำนวนมาก ดังนั้น หากไม่ต้องการบริโภคน้ำตาลและไขมันมากเกินไป ขนมชนิดนี้เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
5. ช็อกโกแลตโรล （Chocolate Roll）
ขนมปังหรือเค้กโรลรสช็อกโกแลตมักเป็นที่โปรดปรานของเด็ก ๆ เนื่องจากมีรสชาติเข้มข้น แต่เช่นเดียวกับทีรามิสุ ร้านเบเกอรี่หลายแห่งใช้ ผงช็อกโกแลต และ น้ำตาลไอซิ่ง ในปริมาณมาก เมื่อกัดเข้าไปจะพบกับน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวจำนวนมหาศาล
ยิ่งไปกว่านั้น ขนมเหล่านี้ยังมีการใช้ เนยเทียม และเนยโกโก้สังเคราะห์ในปริมาณสูง หากผู้ปกครองไม่ต้องการให้บุตรหลานได้รับน้ำตาลและสารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป ช็อกโกแลตโรลจึงเป็นขนมอีกชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง
6. เค้กผลไม้ （Fruit Cake）
เค้กที่มีรสชาติผลไม้ เช่น สตรอว์เบอร์รี ส้ม หรือมะม่วง มักมีความน่าดึงดูดและได้รับความนิยมจากผู้หญิงและเด็ก แต่ปัญหาที่พบคือ ผลไม้เหล่านี้มักจะนิ่มและเน่าเสียได้ง่าย ทำให้ร้านเบเกอรี่หลายแห่งเลือกใช้ ผลไม้ที่ไม่ได้คุณภาพ เพื่อประหยัดต้นทุน ซึ่งอาจทำให้เกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเป็นอันตรายต่อสุขอนามัย
นอกจากนี้ ยังมีบางร้านใช้ ผลไม้กระป๋อง ซึ่งถูกแช่ในน้ำเชื่อมและเต็มไปด้วยสารปรุงแต่งและสารกันบูด ทำให้มีรสหวานจัดและไม่มีสารอาหารเทียบเท่าผลไม้สด ดังนั้น หากลูกของคุณชอบรับประทานผลไม้ การซื้อผลไม้สดให้รับประทานโดยตรงย่อมเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าการรับประทานเค้กผลไม้
สรุปแล้ว แม้ขนมหวานจะเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ ชื่นชอบและช่วยประหยัดเวลาให้ผู้ปกครอง แต่การเลือกซื้ออย่างชาญฉลาดเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ปกครองควรเลือกซื้อขนมที่ผ่านการรับรองจากแหล่งผลิตที่ปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ และที่สำคัญคือ ไม่ควรให้บุตรหลานรับประทานขนมหวานบ่อยเกินไป เพื่อจำกัดการรับน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวที่มากเกินความจำเป็น |
|
发表于 2025-10-28 17:47:54